สาว ๆ คนไหนที่มักจะมีปัญหาผื่นขึ้นหน้าบ่อย ๆ เคยสงสัยไหมคะว่าเป็นเพราะอะไร ? โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ยิ่งทำให้มีผื่นขึ้นหน้าได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งคำตอบก็คือเป็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวนั่นเองค่ะ บวกกับเหงื่อไคลต่าง ๆ ที่ถูกขับออกมามากเป็นพิเศษ ทำให้รูขุมขนชุ่มไปด้วยเหงื่อ และนี่แหละค่ะที่เป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบและระคายเคืองได้ง่าย จนเกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ แดง ๆ เป็นพรืด หรือที่เรียกว่าเป็นผื่นแพ้ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งบางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วยก็ได้ค่ะ
วิธีรักษาผื่นแพ้บนใบหน้า
- ว่านหางจระเข้
สำหรับว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรไทยที่รักษาได้หลายอย่างเลยค่ะ และแน่นอนว่าอาการผื่นแพ้บนใบหน้าก็สามารถช่วยรักษาได้เช่นเดียวกัน แถมยังได้ผลดีมาก ๆ อีกด้วย เนื่องจากวุ้นในว่านหางจระเข้จะมีความเย็น และมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน และอาการแพ้ เพียงแค่ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้มาบดให้ละเอียด จากนั้นให้นำมาทาที่ผิวหน้าบริเวณที่เป็นผื่น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก ทำแบบนี้ทั้งเช้าและเย็น จะยิ่งช่วยให้ผื่นแพ้หายได้เร็วขึ้นค่ะ
- แตงกวา
แตงกวาเป็นผักที่มีความเย็น มีสรรพคุณช่วยลดผดผื่น และอาการแสบร้อนของผิวหนังที่เกิดการอักเสบได้ เพียงแค่นำแตงกวามาปอกเปลือกออก แล้วหั่นเป็นแว่นบาง ๆ นำไปแช่ตู้เย็นไว้สักพัก แล้วนำมาแปะบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วค่อยเอาออก ล้างหน้าให้สะอาด ทำบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยทำให้ผดผื่นหายแล้ว ยังทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย
- ขมิ้นชัน
นำผงขมิ้นชัน มาผสมกับนมจืดและดินสอพอง คนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก หรืออีกวิธีคือนำเหง้าของขมิ้นชันสดมาตำให้แหลก นำน้ำขมิ้นชันที่ได้มาทาบริเวณใบหน้าที่เป็นผื่นแพ้ วิธีนี้จะช่วยทำให้ผดผื่นยุบลงได้เร็ว เพราะขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคผิวหนังได้แทบทุกอาการเลยทีเดียว
- มะนาว
มะนาวนอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยลดความมันบนใบหน้าแล้ว รู้ไหมว่ายังจะมีสรรพคุณช่วยลดอาการระคายเคืองและผดผื่นคันได้อีกด้วย เพียงแค่นำมะนาวสดมาหั่นครึ่ง บีบเอาน้ำมะนาวมาทาให้ทั่วใบหน้าที่เป็นผดผื่น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก หากทำบ่อย ๆ นอกจากอาการคันจะทุเลาลงแล้ว ผดผื่นก็จะหายไปได้ง่าย ๆ ด้วย แถมยังช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วยนะคะ
- ใบพลู
ใบพลูถือเป็นสมุนไพรโบราณที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการผดผื่นหรือโรคผิวหนังได้ดี โดยให้นำใบพลูสด ๆ สัก 4-5 ใบ มาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำให้ละเอียด ผสมน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นให้นำน้ำใบพลูที่ได้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าที่เป็นผดผื่น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก สารที่อยู่ในใบพลูจะช่วยยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียต่าง ๆ ช่วยให้อาการผื่นแพ้หายได้เร็วขึ้น
- กล้วย
ให้นำเปลือกกล้วยด้านในมาประคบใบหน้าตรงบริเวณที่มีผดผื่น ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยเอาออก ทำเช้า-เย็นอาการผื่นแพ้จะค่อย ๆ ทุเลาลง เนื่องจากเปลือกกล้วยมีฤทธิ์เย็น สามารถช่วยบรรเทาผดผื่นคันและอาการแสบร้อนบริเวณผิวหนังได้ค่ะ
- ใบระบาด
นำใบระบาดประมาณ 4-5 ใบ มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำไปตำให้ละเอียด แล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้าที่เป็นผดผื่น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เอาออกและล้างหน้าให้สะอาด ทำวันละครั้ง ไม่กี่วันทั้งอาการคันและผื่นแพ้ก็จะหายไป
1.หยุดใช้ครีมและเครื่องสำอางทันที
หยุดใช้ครีมและเครื่องสำอางทุกชนิดโดยทันที รวมไปถึงโฟมล้างหน้า ครีมอาบน้ำ แชมพูต่างๆ ด้วย เพื่อให้ร่างกายหยุดรับสารเคมีที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ จากนั้นให้สังเกตส่วนผสมต่างๆ ที่แตกต่างจากที่เราเคยใช้ในปกติ ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นสารที่ก่อการแพ้ โดยเฉพาะครีมและเครื่องสำอางใหม่ๆ ที่เราทดลอง นั่นแสดงว่า มีสารที่เข้ากับผิวหน้าเราไม่ได้
2.ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
วิธีที่ดีที่สุดในช่วงที่เกิดอาการแพ้ นั่นคือ การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือ เพราะผิวเรากำลังบอบบาง ไม่ทนต่อการรับสารเคมีเพราะจะทำให้ระคายเคืองเพิ่มมากยิ่งขึ้น น้ำเปล่าจึงเป็นทางเลือกที่ถนอมผิวและปลอดภัยมากที่สุด ที่จะนำมาใช้ล้างหน้าในช่วงที่มีอาการแพ้นั่นเอง
3.หยุดเช็ดถูหน้าแรงๆ
ช่วงที่หน้าเกิดอาการแพ้ การถูหน้าแรงๆ จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการเสียดสีและการระคายเคืองมากยิ่งขึ้น จนเพิ่มอาการแพ้มากกว่าเดิมได้ ดังนั้น ควรเช็ดหน้าด้วยการซับเบาๆ เพื่อถนอมผิวหน้าและทำให้อาการแพ้หายเป็นปกติเร็วขึ้น
4.งดแคะ แกะเกา ลูบบริเวณที่แพ้
สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังอย่างมาก คือ การสัมผัสผิวที่แพ้เวลารู้สึกคัน สาวๆ ต้องอดทนงดแคะ แกะเกาหรือใช้มือลูบคลำบริเวณที่แพ้โดยเด็ดขาด เพราะมือเราอาจสกปรก ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าเกิดการแพ้รุนแรงกว่าเดิม ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
5.งดพอกหน้า มาสก์หน้า
การพอกหน้าและมาส์กหน้า เป็นการรบกวนผิวหน้า และทำให้หน้าแห้ง ซึ่งไม่เหมาะกับช่วงเวลาที่หน้าเรากำลังบอบบางจากการแพ้ เราควรหยุดการรบกวนใบหน้า เพื่อลดการสร้างความระคายเคืองแก่ผิว ให้หน้าได้พักผ่อนมากที่สุดค่ะ
6.ทานอาหารเสริมโปรไบโอติกส์
โดยธรรมชาติแล้วใบหน้าของเราจะมีจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์อยู่ แต่เมื่อเกิดอาการแพ้ จุลินทรีย์เหล่านี้ก็มักตายลงไปจนทำให้หน้าเสียสมดุล การทานอาหารเสริมโปรไบโอติกส์จึงจะช่วยให้หน้ากลับมามีสภาวะปกติ สร้างสมดุล และทำให้ผิวหน้าหายจากอาการแพ้ได้เร็วยิ่งขึ้น